อ.ทนัญ โหราศาสตร์ไทย ระบบธาตุ

18 กันยายน 2563

ดาวในราศีธาตุไฟ

              จากข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ไม่กี่วันมานี้จะเห็นข่าวของคนที่ทำร้ายตนเองเพราะสาเหตุของความรัก ในแว๊บแรกของผมจะเห็นกลุ่มดาวในราศีธาตุไฟในทันทีโดยเฉพาะตนุลัคน์จะต้องในราศีธาตุไฟหรือถูกดาวในราศีธาตุไฟเล็งอยู่ จึงอดใจไม่ไหวต้องทำการค้นหาเหตุผลโดยผูกดวงจากวันเดือนปีเกิดที่ค้นเจอจากในเน็ต(แต่ไม่ทราบเวลาเกิด) ก็จะเห็นว่ามีดาวสถิตในราศีธาตุไฟอยู่จริง และมีอยู่ด้วยกัน 3 ดาวคือ ดาวอาทิตย์-ดาวพุธในราศีสิงห์ และมีดาวพฤหัสในราศีธนู กลุ่มดาวทั้งสามนี้โดยรากฐานของระบบธาตุจะส่งผลให้เป็นคนฉลาดและกล้าพูดกล้าคิด หยิ่งทะนงและเป็นคนมีหลักการในการดำเนินชีวิตเป็นของตนเอง ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้อาจไปสร้างความขุ่นเคืองหรือทำให้เกิดการไม่สบอารมณ์แก่ผู้อื่นได้บ้าง แต่ตนเองก็จะไม่แคร์เพราะมีความมั่นใจในความคิดเห็นของตนเองว่าถูกต้อง(เพราะอีโก้แรง) และเมื่อพิจารณาถึงประวัติในชีวิตของเจ้าชะตาทั้งช่วงที่มีการแยกทางกันของบิดา-มารดา แล้วตนเองต้องอยู่ในการดูแลของบิดา และช่วงที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ก็ทำให้ผมสามารถคาดคะเน(ขอเน้นว่า.. คาดคะเนแบบใช้หลักการในระบบธาตุ)ดวงชาตานี้น่าจะมีลัคนาราศีกันย์ มากกว่าจะเป็นลัคนาราศีสิงห์...
เมื่อ(คาดคะเน)เห็นว่าลัคนาราศีกันย์ทำให้ดาวพุธตนุลัคน์สถิตเรือนวินาสน์กุมดาวอาทิตย์เช่นนี้ ยิ่งทำให้ตนเองเกิดอีโก้รวมถึงมีความคิดและอุดมคติที่มักสร้างปัญหาให้แก่ตนเอง ดาวในลักษณะนี้เมื่อรุ่งเรืองจะต้องเกิดปัญหาอุปสรรคตามมาในทุกๆครั้ง เพราะดาวอาทิตย์เจ้าเรือนวินาสน์คอยกระตุ้นและกดดันดาวพุธให้สร้างความโดดเด่น,สร้างชื่อเสียงอยู่ตลอดเวลา และก็ด้วยดาวอาทิตย์ดวงเดียวกันนี้ที่ทำให้เกิดการเสื่อมเสียขึ้นจากอีโก้และวาจาหรือแนวความคิดของตน แล้วดาวพุธและดาวอาทิตย์ทั้งสองดวงนี้ก็ยังส่งผลเบียนจากราศีสิงห์เรือนวินาสน์ไปสู่ดาวศุกร์ที่มีความหมายด้านหนึ่งซึ่งหมายถึงอารมณ์ความรัก ทำให้เกิดเป็นอารมณ์ความรักที่จริงจัง,ร้อนรน,ไม่สงบสุขและเป็นความรักที่เกิดอย่างรวดเร็วตามอารมณ์ที่ตนเองต้องการโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านหรือท้วงติงจากใคร ส่วนดาวปัตนิที่เป็นดาวพฤหัสสถิตในราศีธนูเรือนธาตุไฟทำให้เห็นว่าเมื่อมีคู่ครองก็จะได้คนที่มีความคิดเห็นส่วนตัวที่แข็งแกร่งยากที่จะโน้มน้าวให้คล้อยตามตนเอง แต่การดูปัตนินั้นต้องพิจารณาว่าก่อนที่จะเป็นคู่ครองจะต้องเป็นแฟนกันก่อน ดังนั้นดาวพฤหัสในตอนแรกที่เข้ามาจีบใหม่ๆก็จะเป็นในรูปแบบของคนที่ฉลาด,มีความรับผิดชอบแบบผู้ใหญ่ เป็นคนที่จริงจังและมีความรับผิดชอบ พูดตรง พูดจริง คิดสิ่งใดก็จะทำในสิ่งนั้นให้เกิดผล กล้าที่จะเข้าหาคนที่ตนเองหมายปอง(แต่ดาวพฤหัสในราศีธนูเรือนพันธุนี้จะแอบแฝงของความขัดแย้งระหว่างคู่ครองกับคนในครอบครัวอยู่ด้วย) เมื่อคบหากันจนลึกซึ้งหรือได้อยู่กินกันในฐานะคู่ครองและเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ดาวพฤหัสนี้ก็จะแสดงบทบาทของตนเองมากขึ้น ทำให้คู่ครองเกิดความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับเจ้าชะตาได้ในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะคู่ครองมักต้องการที่จะอบรมสอนสั่งให้เจ้าชะตาอยู่ในโอวาทให้มากที่สุด และตนุลัคน์ของเจ้าชะตาก็เป็นดาวที่อยู่ในราศีธาตุไฟแถมมีดาวอาทิตย์กุมอยู่ด้วยทำให้มีศักดิ์ศรีจึงไม่อาจจะยอมคล้อยตามให้แก่คู่ครองได้ง่ายๆ เมื่อเป็นเช่นนี้นานวันเข้าก็จะกลายเป็นแรงกดดันต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆไปตามระยะเวลา

ส่วนสาเหตุของการทำร้ายร่างกายตนเองก็เป็นสาเหตุมาจากที่ตนุลัคน์มาสถิตราศีธาตุไฟ(ตามการอ่านจากพื้นดวง) ทำให้เกิดผลในด้านการคิดและการตัดสินใจที่รวดเร็วมากเกินไป,เด็ดขาดและมั่นใจมากเกินไป และที่สำคัญคือเมื่อไปสถิตราศีสิงห์ทำให้ยึดถืออีโก้ของตนเองมาก เมื่อได้รับความผิดหวังล้มเหลวก็จะรับไม่ได้กับสิ่งที่คิดว่าตนเองกำลังพ่ายแพ้ ดาวพุธในราศีธาตุไฟเมื่อหาทางออกไม่ได้ก็จะทำให้เกิดเป็นความร้อนรนในจิตใจมากขึ้นเรื่อยๆด้วยอิทธิพลของธาตุไฟที่ดาวสถิต ส่วนผลที่เกิดในช่วงนี้ก็มีส่วนหนึ่งที่เป็นผลจากดาวศุกร์ที่จรเข้าราศีสิงห์ อาจจะสงสัยว่าดาวศุกร์จะไปทำให้เกิดผลเสียด้านความรักได้อย่างไร ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นผลจากการที่ดาวศุกร์จรทับส่งธาตุน้ำไปสู่ดาวพุธตนุลัคน์(ดาวคู่ธาตุ)และดาวอาทิตย์(ดาวคู่สมพล) ดาวอาทิตย์เมื่อได้รับธาตุน้ำก็มีผลทำให้เกิดการคลายตัวในเรื่องความทะนงตัวลง คลายตัวในการในเรื่องการรักษาชื่อเสียงหน้าตาของตนเอง จึงสามารถทำอะไรที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อตนเองในเรื่องของชื่อเสียงและหน้าตา ส่วนผลที่มีต่อดาวพุธก็ทำให้เกิดความคิดฝันหวานในเรื่องของความรัก ซึ่งจะลดทอนความเข้มแข็งของจิตใจลงไปเป็นอย่างมาก และทำให้เกิดการสื่อสารในแนวอ้อนวอนงอนง้อ เมื่อเรือนที่ดาวศุกร์จรเข้าไปเป็นเรือนวินาสน์ทำให้ความฝันหวานและจิตใจที่เกิดความอ่อนแอของดาวพุธจึงเป็นสิ่งที่สร้างผลเสียให้แก่ตนเอง ผลทั้งหมดนี้ส่งผ่านทางมุมตรีโกณไปสู่ดาวพฤหัสเจ้าเรือนปัตนิ แสดงว่าก่อนที่จะตัดสินใจทำร้ายตนเองนั้นเจ้าชะตาจะต้องมีการอ้อนวอนงอนง้อต่อปัตนิมาก่อนอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่กระทำไปนั้นเป็นผลที่ส่งจากราศีสิงห์เรือนธาตุไฟไปสู่ดาวปัตนิในราศีธนู ทำให้ดาวปัตนิเกิดความรุ่มร้อนเพิ่มมากขึ้นและปัตนิจะรับผลจากการงอนง้อมาแปลงเป็นธาตุไฟจึงกลายเป็นว่าเจ้าชะตาเข้ามายื่นคำสั่งหรือยื่นคำขาดมากกว่า ซึ่งทำให้การงอนง้อนั้นไม่เกิดผลดีแก่เจ้าชะตาแต่อย่างใดเลย

แต่ในมุมร้ายก็ยังมีมุมที่ดีหลงเหลืออยู่เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในตอนที่ดาวเสาร์จรพักร เพราะถ้าดาวเสาร์จรปกติจะส่งผลทำให้เกิดการตัดสินใจที่เด็ดขาดและรุนแรงกว่านี้อย่างแน่นอน เพราะดาวเสาร์กำลังจรทับดาวอังคารที่มักส่งผลด้านร้ายแรงให้แก่ดวงชะตา แต่ดวงชะตานี้ก็มีโชคดีอีกครั้งเมื่อดาวเสาร์จรปกติก็ยังมีดาวพฤหัสจรเข้าทับตนุลัคน์อยู่ก่อนแล้ว จึงมีโอกาสที่จะทำให้เจ้าชะตาปลีกตัวไปหาทางสงบด้านจิตใจและทำให้มีสติปัญญาหรือทำให้ตัดใจได้ในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งนั่นจะเป็นทางแก้ไขที่ดีที่สุดของเจ้าชะตาเท่าที่เห็นได้จากผลของดาวจร

หากจะวิจารณ์ว่าการพิจารณาดวงชะตาของผมในครั้งนี้เป็นในแบบว่าหวยออกแล้วค่อยมาออกคำทำนาย ก็ขอเถียงว่ามีส่วนที่ใช้ข้อมูลจากข่าวมาประกอบการทำนายเป็นส่วนน้อยเท่านั้น เพราะใน Blog ก็มีกล่าวเช่นนี้ไว้และในการลูกศิษย์ของผมก็มักบอกอยู่เสมอว่า “ดาวที่สถิตในราศีธาตุไฟนั้นมักส่งผลร้ายให้แก่เจ้าชะตาโดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นเจ้าเรือนอริ,มรณะ,วินาสน์ และในขณะเมื่อใดมีดาวจรเข้าส่งผลกระทบก็เกิดเหตุร้ายได้ในช่วงนั้นทันที” และในทางชันษาจรก็จะมีการเปลี่ยนลัคนาในทุกๆปี ดังนั้นราศีธาตุไฟจึงสามารถเป็นเรือนอริหรือดาวเจ้าเรือนอริสถิตในราศีธาตุไฟได้ในสักปี และเมื่อผมคาดคะเนว่าเจ้าชะตามีลัคนาราศีกันย์เมื่อนับชันษาจรปีนี้จะตกที่ราศีมีน ทำให้ราศีสิงห์เป็นเรือนอริและมีดาวสถิตคือดาวอาทิตย์(เจ้าเรือนอริปี)และดาวพุธ(เจ้าเรือนปัตนิปี) ดังนั้นจึงเห็นผลกระทบจากดาวในเรือนอริราศีธาตุไฟมาสู่ดาวพฤหัส(ตนุปี)ที่ราศีธนูได้ชัดเจนยิ่งขึ้นนั่นเองครับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น