บทนำ

บทนำ

โหราศาสตร์ไทยมีอยู่คู่เมืองไทยมาเป็นเวลานาน   และก็มีการสอนอยู่ด้วยกันหลากหลายสำนักโดยมีครูอาจารย์ผู้ทรงความรู้เป็นผู้เผยแพร่ความรู้ให้กับคน...

18 กันยายน 2563

มุมเบียน มีวิธีใช้อย่างไร

           เป็นมุมที่มีความสำคัญซึ่งบางทีผมให้คะแนนความสำคัญได้เกือบเท่ากับมุมกุมเลยทีเดียว แต่ความโดดเด่นจะแตกต่างกับมุมกุมเพราะดาวเบียนจะเป็นการส่งผลจากธาตุของราศี(ไม่ใช่ส่งผลจากธาตุดาวเช่นมุมกุม) ผลจากมุมเบียนก็มีได้ทั้งดี-ร้ายขึ้นอยู่กับดาวที่เบียนและราศีที่เบียน มุมเบียนจะเกิดได้ต้องมีดาวอย่างน้อยสองดวงโดยแต่ละดวงสถิตในราศีที่ติดกัน โดยดาวที่อยู่ในราศีด้านหลังจะส่งผลไปสู่ดาวที่อยู่ในราศีด้านหน้า(การเบียนส่วนมากจะเป็นลักษณะทวนเข็มนาฬิกา ยกเว้นดาวราหูและดาวเกตุที่จะเบียนตามเข็มนาฬิกา)

ผลจากการเบียนจะเป็นเช่นใดก็ต้องดูจากความเป็นเจ้าเรือนของดาวที่เบียนและเรือนที่ดาวนั้นสถิตแล้วกำลังเบียนอยู่ ซึ่งตอนหัดอ่านใหม่ๆอาจจะสับสนบ้าง แต่ถ้าฝึกฝนบ่อยๆก็จะทำให้เกิดประโยชน์กับการทำนายพื้นดวงได้เป็นอย่างดี

ผลจากการเบียนของแต่ละราศีมีดังนี้คือ
การเบียนจากดาวในราศีธาตุไฟไปสู่ดาวในราศีธาตุดิน จะเป็นการเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการกระตือรือร้น,สร้างแรงกดดัน,ทำให้กระฉับกระเฉงเอาจริงเอาจัง,สร้างปัญหา ฯลฯ
การเบียนจากดาวในราศีธาตุลมไปสู่ดาวในราศีธาตุน้ำ จะเป็นการเข้าไปทำให้เกิดความผันผวนไม่อยู่นิ่ง,มีความรวดเร็วแต่ไม่จริงจัง,เป็นการพัฒนาแบบชั่วคราว,เป็นความก้าวหน้าที่ไม่เกิดความมั่นคง,เป็นการตัดสินใจที่รวดเร็วแต่ไม่ได้มีความมั่นใจแต่อย่างใด ฯลฯ
การเบียนจากดาวในราศีธาตุดินไปสู่ดาวในราศีธาตุลม จะเป็นการเพิ่มการยั้งคิด,เป็นการชะลอตัวไม่เร่งรีบ,เพิ่มความมั่นคง,เพิ่มการไตร่ตรอง,เพิ่มความประณีตบรรจง ฯลฯ
การเบียนจากดาวในราศีธาตุน้ำไปสู่ดาวในราศีธาตุไฟ จะเป็นการชะลอความร้อนรน,เกิดความสุขสบายใจ,การพัฒนาเป็นไปได้ช้าหรือเกิดการยั้งมือไม่รีบร้อน,มีอารมณ์ที่เยือกเย็นมากขึ้น,ได้รับการช่วยเหลือให้งานเสร็จลุล่วงอย่างดี,งานต้องชะลอตัวเพราะเสียเวลาคอยฉุดดึงผู้อื่นให้ก้าวเดินตาม ฯลฯ

                                               
ความหมายที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นนั้น หากจะนำมาใช้จริงยังจะต้องนำดาวที่เบียนเข้าไปผสมกับดาวที่ถูกเบียน และผสมความหมายเจ้าเรือนของดาวที่เบียนรวมถึงเรือนที่ดาวเบียนสถิตอีกด้วยจึงจะเกิดความหมายที่สมบูรณ์ เช่น ลัคนาราศีตุลย์มีศุกร์สถิตราศีมังกรแล้วมีดาวพุธเจ้าเรือนศุภะสถิตราศีธนู ซึ่งดาวพุธจะเบียนดาวศุกร์ด้วยการส่งธาตุไฟจากราศีธนูเข้าไป และส่งความหมายของดาวพุธรวมถึงความเป็นเจ้าเรือนศุภะด้วย ดาวพุธเบียนจากเรือนสหัชชะก็ต้องนำความหมายของสหัชชะเข้าไปผสมอีกเช่นกัน ดาวพุธเบียนดาวศุกร์นี้จะทำให้ดาวศุกร์ที่ปกติชอบอยู่นิ่งๆ จะลุกขึ้นมาสนใจเรียน(ผลจากราศีธนู) ด้วยการกระตุ้นและการสอนสั่งตักเตือนแบบจ้ำจี้จ้ำไชจากบิดา(ดาวพุธเจ้าเรือนศุภะ) และสภาวะสังคมรอบตัวหรือการมีเพื่อฝูงที่สนใจฝักใฝ่ในการศึกษา(ดาวที่สถิตในเรือนสหัชชะราศีธนู)ก็มีส่วนกระตุ้นหรือกดดันเจ้าชะตาทำให้มีความกระตือรือร้นในการตั้งใจเรียนด้วยเช่นกัน
(ถ้าดาวพุธไม่ได้เบียนแต่มากุมที่ดาวศุกร์ในราศีมังกร ดาวศุกร์จะยิ่งนิ่งสงบแถมชอบฝันเฟื่องเลื่อนลอย และบิดาก็จะใจดีคอยเอาอกเอาใจให้ได้รับความสุขสบายแถมไม่จ้ำจี้จ้ำไชในเรื่องการศึกษาอีกด้วย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะดาวศุกร์จะได้รับธาตุน้ำและได้รับความหมายจากดาวพุธทำให้เกิดผลดังกล่าว)

ดูแล้วการอ่านมุมเบียนจะเป็นการอ่านที่ค่อนข้างวุ่นวายซับซ้อน แต่เชื่อผมเถอะว่าบางดวงชะตานั้นสามารถชี้ขาดถึงผลดีผลร้ายจากมุมเบียนได้อย่างชัดเจน เพราะว่าบางดวงไม่น่าจะเกิดผลสำเร็จขึ้นได้แต่ก็ทำได้ด้วยมุมเบียน หรือบางดวงไม่น่าจะเกิดความวุ่นวายในชีวิตก็ยังจะมีขึ้นก็เพราะมุมเบียนนี้อีกเช่นกัน ดังนั้นอย่าละทิ้งการสังเกตุมุมเบียนในดวงชะตาเป็นอันขาดนะครับ  





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อ.ทนัญ โหราศาสตร์ไทย ระบบธาตุ