บทนำ

บทนำ

โหราศาสตร์ไทยมีอยู่คู่เมืองไทยมาเป็นเวลานาน   และก็มีการสอนอยู่ด้วยกันหลากหลายสำนักโดยมีครูอาจารย์ผู้ทรงความรู้เป็นผู้เผยแพร่ความรู้ให้กับคน...

11 ตุลาคม 2563

ดาวเสาร์ก็มีสิ่งที่ดีเหมือนกัน

 ดาวเสาร์ก็มีสิ่งที่ดีเหมือนกัน


ดาวเสาร์ส่วนมากแล้วจะเห็นว่ามีแต่ความร้ายกาจ แต่บางทีถ้าเข้าร่วมกุมกับดาวบางดวงหรือด้วยเหตุผลในบางกรณีก็ทำให้เกิดผลดีขึ้นกับดวงชะตาได้เช่นกัน

                   จากดวงตัวอย่าง ลัคนาราศีธนูดาวพฤหัสตนุลัคน์สถิตราศีมีนกุมดาวเสาร์ โดยปกติแล้วดาวพฤหัสในราศีมีนจะเป็นดาวที่มีน้ำใจ,มีความโอบอ้อมอารี และศีธาตุน้ำก็จะทำให้รู้สึกสุขสบาย,เรื่อยเฉื่อยจึงไม่ต้องรีบเร่ง,ไม่ต้องกระฉับกระเฉงแต่อย่างใด แต่พอดาวพฤหัสได้รับผลกระทบจากดาวเสาร์ที่ร่วมกุม ก็จะได้รับธาตุไฟและได้รับความหมายของดาวเสาร์เข้าไปผสม จึงเปลี่ยนความหมายและเปลี่ยนพฤติกรรมจากดาวพฤหัสไปจากเดิม แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะมีเหตุผลจากความหมายเจ้าเรือนของดาวเสาร์(กดุมภะ) นั่นคือดาวพฤหัสจะมีความกระตือรือร้นถ้าเป็นในเรื่องของการหาเงิน และจะมีการจัดระเบียบด้านการเงินอย่างเข้มงวดเพื่อจุดประสงค์ในการสร้างฐานะครอบครัว(กุมดาวเสาร์ในเรือนพันธุ) และดาวพฤหัสนี้จะมีความโอบอ้อมอารีต่อคนในครอบครัวเท่านั้น ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวจะไม่มีน้ำใจให้มากนัก เนื่องจากดาวพฤหัสได้ถูกผูกเรื่องราวเอาไว้ตั้งแต่ต้นที่ได้สถิตเรือนพันธุ และถ้าสมมติให้ราศีมีนเป็นเรือนสหัชชะ ก็จะทำให้มีน้ำใจกับผู้อื่นแต่กับครอบครัวจะได้รับน้อยลง (ข้อเสียจากมุมนี้คือ จู้จี้เจ้าระเบียบมากเกินควร ควบคุมและเคารพกฎเกณฑ์อย่างเข้มงวด    และมองในมุมกลับกันที่ดาวเสาร์เจ้าเรือนกดุมภะสถิตราศีมีน แต่เดิมถ้าเป็นดาวเสาร์สถิตเพียงดวงเดียวก็จะขาดพลังในการเก็บออม รวมถึงธาตุน้ำทำให้ดาวเสาร์เกิดความเรื่อยเฉื่อยไม่กระตือรือร้นมากนัก แต่เมื่อมีดาวพฤหัสร่วมกุมทำให้ดาวเสาร์ได้รับธาตุดินและมีความหมายของดาวพฤหัสเข้าไปผสม ธาตุดินทำให้ไฟของดาวเสาร์เกิดการลุกโชนได้ดีขึ้นจึงมีความกระตือรือร้นกระฉับกระเฉง รวมถึงมีการเก็บออมการเงินเพื่อให้เกิดความมั่นคงอีกด้วย และดาวพฤหัสก็ส่งความหมายเข้าไปทำให้ดาวเสาร์มีการจัดระเบียบหรือการวางแผนการเงิน และก็เช่นกันคือเหตุผลในการกระทำของดาวเสาร์เกิดจากความหมายเจ้าเรือนของดาวพฤหัส(ตนุ-พันธุ) ดังนั้นจึงสรุปผลจากดาวพฤหัสที่กุมดาวเสาร์ก็ทำให้เกิดความกระตือรือร้นในการหาเงินโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านฐานะของครอบครัว และมีการจัดระเบียบการใช้จ่ายได้เป็นอย่างดีมีความมัธยัสถ์รู้จักเก็บออม (ข้อเสียจากมุมนี้คือ ตระหนี่ ขาดน้ำใจ ขี้กังวล ย้ำคิดย้ำทำ)
การพิจารณาดาวทุกดวงควรนึกถึงทั้งส่วนดีและส่วนร้าย อย่าไปยึดติดกับด้านใดด้านหนึ่งจนเกินไปนะครับ

การพิจารณาดาวเจ้าเรือนปุตตะ

 ดาวเจ้าเรือนปุตตะ


             ดาวปุตตะเราเอาไว้ใช้ดูช่วงชีวิตในวัยเด็กและวัยเรียน มีความสำคัญเมื่อเราจะดูช่วงชีวิตวัยเด็กหรือวัยเรียนว่าเจ้าชะตามีต้นทุนของชีวิตเป็นอย่างไร และที่สำคัญคือเป็นดาวหนึ่งที่เอาไว้สอบทานลัคนาได้เป็นอย่างดี
ถ้าดาวปุตตะอยู่ในราศีธาตุลมก็จะทำให้เป็นเด็กคล่องแคล่วหรือชอบเที่ยวเล่นหรือหัวไว หรือเป็นเด็กนิ่งๆ,ดำเนินชีวิตไปตามครรลองปกติหรือดื้อเงียบ,ขี้เหงา,ว้าเหว่,เก็บตัว(ธาตุดิน) หรือเป็นเด็กที่ซ่า,ซน,กระฉับกระเฉง,ฉลาด(ธาตุไฟ) หรือเป็นเรียบร้อย,เชื่อฟังผู้ใหญ่,งี้แย,ขี้น้อยใน(ธาตุน้ำ) แต่ถ้าดาวปุตตะมีดาวร่วมกุมก็จะมีอิทธิพลแฝงจากดาวนั้นไปด้วย
                                  
               ดวงตัวอย่าง ดาวพฤหัสเจ้าเรือนปุตตะที่ไปสถิตราศีธาตุลมกุมดาวราหู ถ้าอ่านในความหมายทั้งหมดตามที่ควรจะเป็นก็จะต้องอ่านว่าเป็นเด็กคล่องแคล่วมีจินตนาการซึ่งอาจทำให้ผู้ใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจ หรือเป็นเด็กที่มีความคิดอ่านอิสระไม่ยึดติดกรอบ,กฎ,ระบบระเบียบ หรือเป็นเด็กที่ไม่ค่อยเชื่อฟังผู้ใหญ่และต่อต้าน หรือเป็นเด็กที่ทำอะไรรวดเร็วแต่ไม่ค่อยเรียบร้อยแต่ถ้าได้รับการเข้มงวดก็จะทำได้ดีขึ้น หรือได้รับการศึกษายังต่างถิ่นต่างแดนหรือต่างประเทศและยังทำให้ได้ร่วมงานกับชาวต่างชาติ หรือเป็นเด็กที่คล่องแคล่วมีไหวพริบสูงเรียนรู้ได้รวดเร็วมีความสำเร็จสูง ฯลฯ ความหมายทั้งหมดที่กล่าวไว้นี้จะทำให้มือใหม่เกิดความสับสนว่าแล้วในความเป็นจริงควรจะอ่านในลักษณะใดจึงจะถูกต้องที่สุด เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ความหมายทั้งหมดตามที่กล่าวมา

              วิธีพิจารณาในขั้นแรกที่เราจะหาความเป็นจริงของดาวปุตตะนี้ ก็ต้องดูที่ดาวตนุลัคน์และดาวเจ้าเรือนพันธุ เนื่องจากตนุลัคน์คือพฤติกรรมของเจ้าชะตาและดาวเจ้าเรือนพันธุคือมารดาหรือสภาวะของครอบครัว จากดวงตัวอย่างจะเห็นว่าตนุลัคน์คือดาวอาทิตย์สถิตราศีธนู ทำให้ฐานนิสัยของเจ้าชะตาเป็นคนที่มีความจริงจังใฝ่รู้ในการศึกษา มุ่งเน้นความสำเร็จและเป็นคนที่มีระเบียบวินัยสูง ดาวอังคารเจ้าเรือนพันธุสถิตราศีพิจิกเรือนธาตุน้ำทำให้เห็นภาพของมารดาว่าเป็นคนใจดีให้การดูแลบุตรบริวารด้วยความเมตตา(บางคนจะเข้าใจว่าเพราะอังคารเป็นเกษตรจึงทำให้มีมารดาที่ดีซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะถ้าดาวอังคารไปสถิตราศีเมษก็เป็นเกษตรเหมือนกันแต่จะทำให้มารดามีอารมณ์ที่ดุและโทสะแรง เนื่องจากมีความแตกต่างกันด้วยธาตุของราศี) รวมถึงสภาวะครอบครัวก็อบอุ่นรักใคร่สนิทสนมกันเป็นอย่างดีเพราะดาวพันธุอยู่ในราศีธาตุน้ำ(ซึ่งก็เช่นกันถ้าดาวอังคารไปสถิตราศีเมษก็แสดงถึงครอบครัวมีความวุ่นวายรุ่มร้อนมีปัญหากันได้ตลอดเวลา) เมื่อเห็นอุปนิสัยของเจ้าชะตารวมถึงสภาวะครอบครัวและรู้นิสัยของมารดาก็จะทำให้ต้องอ่านดาวปุตตะไปในแนวทางที่ดีมากกว่าทางร้าย


              แต่เมื่อเจ้าชะตามีครอบครัวของตนเองแล้วก็มีบุตร ดาวปุตตะก็จะเกิดความหมายที่แตกต่างกันไปจากผลกระทบที่มาจากดาวอาทิตย์ เพราะตอนนี้เราดูปุตตะที่ไม่มีฐานของความเป็นดาวอาทิตย์เหมือนเดิม เพราะไม่ได้อ่านพฤติกรรมของเจ้าชะตา เรากำลังอ่านปุตตะที่หมายถึงบุตรบริวาร จึงต้องดูที่ดาวพฤหัสเป็นประธาน ดังนั้นปุตตะในความหมายบุตรบริวารของเจ้าชะตา ก็จะต้องมีบิดาหรือมารดาที่เป็นดาวอาทิตย์ในราศีธาตุไฟในทันที ซึ่งโดยฐานเดิมของเจ้าชะตา(ดาวอาทิตย์ในราศีธนู)คือคนเจ้าระเบียบ,คาดหวังความสำเร็จสูง,เข้มงวดในกฎระเบียบ,มุ่งหวังให้บุตรบริวารมีการศึกษาตามที่ตนเองวางเป้าหมายเอาไว้ จึงไปสร้างความกดดันให้แก่บุตรบริวารตลอดเวลา(ดาวอาทิตย์ในราศีธาตุไฟเล็งดาวปุตตะ) ผลที่เกิดขึ้นจึงอาจส่งผลไปในทางด้านลบมากกว่าที่จะเป็นด้านบวก ไม่เหมือนตอนที่เจ้าชะตาเป็นปุตตะนั้นจะได้รับผลด้านบวกมากกว่า เพราะมีมารดา(ดาวอังคารในราศีธาตุน้ำ)ที่ใจเย็นให้การดูแลอบรมสอนสั่งอย่างสบายๆไม่เข้มงวด และเจ้าชะตาก็เป็นคนที่มุ่งมั่นใฝ่รู้ด้วยตัวเอง(ดาวอาทิตย์ในราศีธนู) ในวัยเด็กของเจ้าชะตาจึงไม่มีความกดดันแต่อย่างใด ส่งผลให้เป็นเด็กที่ฉลาดมีความคล่องแคล่ว,มีจินตนาการสูง และมีโอกาสที่จะได้รับการศึกษายังต่างประเทศนั่นเอง

ดาวเล็งกัน.. ดี-ร้าย อย่างไร

 ดาวเล็งกัน.. ดี-ร้าย อย่างไร


โดยหลักในทางระบบธาตุนั้นมีการสอนเอาไว้อยู่แล้วว่าไม่มีดาวคู่ใดที่ส่งผลดีหรือส่งผลเสียที่เป็นกฎตายตัว เพราะว่าแต่ละราศีจะทำให้ดาวมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะดาวที่เล็งกันนั้นบางทีเป็นดาวที่มีธาตุของตนเองที่ไม่ได้ขัดแย้งกันแต่อย่างใด แต่ด้วยผลของธาตุราศีจึงทำให้ดาวสองดวงที่เห็นว่าไม่ขัดแย้งหรือมักส่งเสริมซึ่งกันและกัน กลับเกิดเป็นผลร้ายขึ้นมาก็ได้ หรือดาวที่เคยขัดแย้งกัน-ไม่เอื้อเฟื้อต่อกันก็กลับมาเป็นการส่งผลในทางดีต่อกันได้อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นดาวคู่มิตร-ดาวคู่ศัตรู-ดาวคู่ธาตุ-ดาวคู่สมพล ก็อยู่ในหลักการพิจารณาเดียวกันนี้ทั้งสิ้น อย่าให้ความหมายของกฎเกณฑ์นั้นมาปิดกั้นความเป็นจริงของดาวและธาตุ 
                                 
จะขอยกตัวอย่างสักกรณีมาให้พิจารณาในด้านมุมร้ายและมุมดีระหว่างดาวเล็งกันดังนี้
ดาวในราศีธาตุลม และ ดาวในราศีธาตุไฟ ที่ต่างก็เล็งไปสู่กันและกัน :
- มุมร้ายจากดาวในราศีธาตุลมก็ทำให้ดาวในราศีธาตุไฟเกิดการรวนเร,ไม่จริงจัง,เปลี่ยนแปลงเร็ว,เลื่อนลอย และมุมร้ายจากดาวในราศีธาตุไฟจะทำให้ดาวในราศีธาตุลมเกิดความกดดัน,ถูกเร่งเร้า,ได้รับการบังคับ,เกิดความก้าวร้าวเป็นผลแห่งความขัดแย้ง
- มุมดีจากดาวในราศีธาตุลมทำให้ดาวในราศีธาตุไฟมีมุมมองที่กว้างมากขึ้นไม่ยึดติดกับเป้าหมายเพียงสิ่งเดียว,มีการผ่อนหนักผ่อนเบาไม่หักโหมจนเสียสุขภาพ,กระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน,มีการผ่อนคลายความเคร่งเครียดและความเร่าร้อนให้น้อยลงไป และมุมดีจากดาวในราศีธาตุไฟทำให้ดาวในราศีธาตุลมมีการตั้งใจ-จดจ่อ-จริงจังอยู่กับการงานของตน,มีความรับผิดชอบมากขึ้น,มีแรงกระตุ้นเพื่อให้ไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จ,มีการตัดสินใจที่รวดเร็วเด็ดขาด

ในรูปดวงตัวอย่าง มีดาวอาทิตย์ในราศีสิงห์ ดาวอังคารในราศีกุมภ์ : ดาวอาทิตย์จะทำให้ดาวอังคารเกิดผลในมุมร้ายก็ทำให้ยึดติดชื่อเสียงหน้าตาและมีความก้าวร้าว ไม่มีการประนีประนอมใดๆ ในมุมด้านดีก็ทำให้มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ มีเป้าหมายที่ชัดเจนจริงจัง มีความรักศักดิ์ศรีและต้องการเป็นผู้นำ
ส่วนดาวอังคารจะทำให้ดาวอาทิตย์เกิดผลทางมุมร้ายคือ ทำให้โลเลขาดความมั่นใจ เป้าหมายไม่ชัดเจนทำให้การงานเกิดความสับสน ไม่จริงจังไม่มุ่งมั่นในการไปสู่ความสำเร็จ ในส่วนมุมด้านดีก็ทำให้การกระทำเพื่อไปสู่เป้าหมายสามารถได้หลากหลายวิธีการ รู้จักกระจายความเสี่ยงและไม่ยึดติดกับชื่อเสียงหน้าตาจนมากเกินไป (ในส่วนความหมายเรือนก็นำมาเติมเป็นส่วนขยายเรื่องราวให้สมบูรณ์) และการจะเลือกว่าควรนำความหมายใดมาใช้ก็ต้องขึ้นกับตนุลัคน์ หรือเป็นไปตามสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละบุคคล

ในมุมของราศีอื่นก็ให้พิจารณาไปตามความหมายของธาตุเช่นธาตุน้ำเป็นผลแห่งความโลเล,เลื่อนลอย,ชุ่มชื่น,เยือกเย็น ธาตุดินเป็นผลแห่งความเชื่องช้า,คิดนาน,ตัดสินใจช้า,มั่นคง,หนักแน่น,สม่ำเสมอ ขอให้ไปแยกแยะผลดีและผลเสียด้วยความหมายดาวและเรือนไปตามสถานการณ์ที่ถูกต้องนะครับ

ดาวกัมมะเป็นนิจ.

 ดาวกัมมะเป็นนิจ..

                              

                   ลัคนาราศีกรกฎดาวจันทร์สถิตราศีสิงห์ ดาวอังคารเจ้าเรือนกัมมะสถิตราศีกรกฎ(เป็นนิจ) มักเห็นคำทำนายว่าดาวอังคารได้ตำแหน่งนิจจะให้ผลแห่งความต่ำต้อยหรือเป็นคนที่ขี้เกียจไม่สู้การงาน คำทำนายแบบสำเร็จรูปนั้นจะใช้ไม่ได้กับดวงชะตานี้ เพราะดาวจันทร์ตนุลัคน์สถิตราศีสิงห์เรือนธาตุไฟทำให้เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นทั้งทางด้านการหาเงิน และมีความมุ่งมั่นเพื่อไปสู่ความสำเร็จในชีวิต ดวงแบบนี้จึงไม่ได้เป็นคนที่ขี้เกียจอย่างแน่นอน ในส่วนของดาวอังคารเจ้าเรือนกัมมะเป็นนิจแบบนี้จะต้องอ่านว่า เจ้าชะตาจะเลือกการทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงกายให้เหน็ดเหนื่อยมากนัก หรือเลือกการงานที่ไม่ต้องไปแข่งขันต่อสู้แย่งชิงให้ลำบากตรากตรำ ดังนั้นดวงแบบนี้เป็นคนที่เก่งมีความสามารถจึงเลือกงานได้ตามที่ตนเองต้องการ

                   และดาวอังคารในราศีกรกฎจะพิจารณาว่าเป็นการทำงานด้านบริการช่วยเหลือแบบมีน้ำใจทำให้ฟรีๆได้หรือไม่ เมื่อดูที่ตนุลัคน์สถิตเรือนกดุมภะราศีสิงห์แบบนี้... หมายถึงทำอะไรก็แล้วแต่จะต้องได้เงิน หรือทำแล้วได้หน้าได้ชื่อเสียงแทนตัวเงินก็ยังพอรับไหว แต่ให้ทำฟรีๆโดยไม่มีสิ่งตอบแทนนั้นคงต้องขอคิดดูก่อน

                   ดาวอังคารที่เบียนจากราศีกรกฎจะส่งธาตุน้ำไปสู่ดาวจันทร์ทำให้คลายความร้อนรุ่มและมีความชุ่มชื่นเย็นสบาย ดังนั้นจะยิ่งเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นว่าการทำงานที่ง่ายๆสบายๆเป็นสิ่งที่เจ้าชะตามีความสุขที่สุด

                  ดังนั้นเมื่อใดที่เห็นดาวได้ตำแหน่งนิจแล้วอย่างเพิ่งรีบตัดสินใจว่าต้องต่ำต้อยด้อยค่าเสมอไป ควรพิจารณาให้รอบด้านและดูว่าตนุลัคน์จะเลือกความหมายของดาวนิจมาใช้อย่างไรให้ถูกต้องตามพฤติกรรมแท้จริง

ตนุลัคน์สถิตเรือนพันธุ

 ตนุลัคน์สถิตเรือนพันธุ


จากรูปดวงที่นำมาเป็นตัวอย่าง ถ้าหากพิจารณาเพียงความหมายเรือน ตนุ+พันธุ+พันธุ ก็จะเข้าใจไปว่าเจ้าชะตาควรจะได้อยู่กับครอบครัวอย่างปกติ และน่าจะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัวเป็นอย่างดี                      
                                 
              แต่ในความเป็นจริงในดวงชะตาลักษณะนี้เมื่อพิจารณาด้วยระบบธาตุจะได้ความหมายที่แตกต่างจากที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นอย่างสิ้นเชิง เพราะดาวอังคารตนุลัคน์ที่สถิตเรือนพันธุราศีธาตุลมเช่นนี้จะแสดงว่าเจ้าชะตาไม่ค่อยได้อยู่บ้านหรือหากจะอยู่ก็ไม่ค่อยจะอยู่ได้นานนัก รวมถึงจะมีการเดินทางบ่อยหรือต้องมีการโยกย้ายบ้านบ่อยๆด้วยก็เป็นได้ และในกรณีที่กุมดาวราหูเจ้าเรือนพันธุนี้ก็ไม่ได้หมายถึงได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจากมารดาแต่อย่างใด เพราะดาวราหูเป็นดาวที่มีความหมายด้านอิสรเสรีและไม่มีความหมายในด้านการดูแลเอาใจใส่ผู้ใด เมื่อดาวราหูกุมดาวอังคารที่ต่างก็เป็นดาวธาตุลมด้วยกันจึงเป็นการเพิ่มธาตุให้แก่กันและกัน ดาวราหูที่ได้รับธาตุลมเพิ่มขึ้นจากดาวอังคารก็ทำให้เกิดพฤติกรรมไม่ใส่ใจและมีอิสระมากขึ้น มีความวู่วามชอบใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ดาวอังคารที่ได้รับธาตุลมจากดาวราหูก็ทำให้มีการเดินทางหรือพลัดพรากบ้านได้บ่อยมากขึ้นไปอีก จะมีความหุนหันพลันแล่นกล้าทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นและไม่ค่อยมีมารยาทรวมถึงไม่ค่อยเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่อีกด้วย ดังนั้นดาวทั้งสองนี้จึงไม่ได้ส่งเสริมในเรื่องของการอยู่อาศัยที่เป็นปกติและไม่ได้เป็นเรื่องของการดูแลเอาใจใส่ต่อกันแต่อย่างใด แม้จะได้อยู่ในบ้านเดียวกันพร้อมหน้าพร้อมตาแต่ก็จะไม่มีความผูกพันและไม่มีความเคารพเชื่อฟังต่อกันเท่าไหร่นัก และดาวอังคารในลักษณะนี้จะไม่ค่อยสนใจดูแลบ้านช่องจึงไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกด้วยเช่นกัน

              เมื่อดูที่ดาวพฤหัสเจ้าเรือนปุตตะที่หมายถึงช่วงวัยเด็กหรือวัยเรียน ดาวพฤหัสสถิตราศีมังกรก็หมายถึงในวัยเด็กอาจจะต้องอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างเก็บกดหรือมีเรื่องอึดอัดคับข้องใจ และมีความเป็นไปได้ที่จะต้องถูกส่งไปอยู่ในโรงเรียนประจำ เพราะตนุลัคน์กำหนดภาพโดยรวมเอาไว้แล้วว่าเจ้าชะตาอยู่ไม่ติดบ้านและไม่ค่อยได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว แต่ดาวพฤหัสในราศีมังกรนี้เราจะไม่อ่านว่าเหงาหรือเป็นเด็กเก็บตัว ก็เพราะว่าดาวอังคารตนุลัคน์ในราศีกุมภ์เรือนธาตุลมนี้เป็นคนที่ค่อนข้างกระฉับกระเฉงขี้เล่น ดังนั้นโดยดาวลักษณะนี้จะสันนิษฐานได้สองประการคือโดนส่งไปโรงเรียนประจำหรือขาดความอบอุ่นจากครอบครัว(อาจจะถึงขั้นพ่อแม่เลิกรากันก็ได้)

              จึงขอฝากการพิจารณาดาวในลักษณะนี้ไว้เพื่อฝึกฝน เพราะบางทีการอ่านด้วยเรือนสู่เรือนจะหลอกให้หลงทาง เมื่อหาทางลงไม่เจอส่วนมากก็จะไปยกเอากฎเกณฑ์อื่นๆมาหาคำตอบซึ่งจะยิ่งทำให้ยิ่งสับสนจนหาทางกลับที่ถูกต้องไม่เจอสักที และในเรื่องดาวคู่ธาตุของดาวทั้งสองก็ไม่ได้ส่งผลให้ดีแต่อย่างใดกลับจะยิ่งส่งผลเสียให้มากขึ้น ดังนั้นแค่เรานำเอาธาตุมาร่วมพิจารณาก็จะเกิดภาพและรายละเอียดที่ถูกต้องชัดเจนมากขึ้น จำไว้ว่าในการเริ่มฝึกฝนนั้นยังไม่ต้องนำกฎเกณฑ์ที่ยากๆมาใช้ให้เสียเวลา ควรหัดทำนายด้วยความเข้าใจและโดยวิธีง่ายที่สุดแล้วค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆนะครับ

อิทธิพลดาวกุมตนุลัคน์

 อิทธิพลดาวกุมตนุลัคน์

พิจารณาจากรูป           


                 ดาวศุกร์ที่สถิตในราศีพิจิกเพียงดาวเดียวจะเป็นพฤติกรรมของเจ้าชะตาที่ค่อนข้างรักสบาย เลือกที่จะทำในสิ่งที่ง่ายไว้ก่อนและหากเจอสิ่งที่ยากๆก็จะทำได้ไม่เต็มที่หรืออาจจะผละหนีก็เป็นได้ มักจะคล้อยตามผู้อื่นหรืออาจจะอ่านว่าไม่มีความคิดเห็นเป็นของตนเองก็ได้ แต่เมื่อดาวศุกร์นี้มีดาวพฤหัสเข้ากุมก็จะทำให้เกิดผลดีเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้มีสติปัญญาเพิ่มพูนสะสมเข้าสู่ตนเอง ธาตุดินของดาวพฤหัสก็จะไปลดทอนความอ่อนไหวของดาวศุกร์จึงมีความเข้มแข็งมั่นคง และทำให้ดาวศุกร์นี้จะดูนิ่งๆและเก็บความรู้สึกได้ดี เป็นคนมีความรู้แต่คนรอบตัวอาจจะดูไม่ออกว่าเขารู้มากแค่ไหน การเก็บอาการไม่ใช่เป็นการอมภูมิแต่เป็นเรื่องของความสุภาพจึงไม่อยากจะแสดงความคิดเห็นในเชิงแทรกแซงหรือขัดแย้งกับผู้อื่น
               ราศีพิจิกเป็นเรือนปัตนิจึงทำให้ดาวศุกร์ที่กุมดาวพฤหัสมีมุมมองในการเลือกคู่ค่อนข้างรอบคอบจึงอาจมีครอบครัวที่ช้าไปสักนิด แม้ดาวพฤหัสจะเป็นเจ้าเรือนลาภะที่มาสถิตเรือนปัตนิก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลของการมีคู่บ่อยหรือไม่ได้ทำให้มีโอกาสในการหาคู่ได้ง่ายแต่อย่างใด เนื่องจากดาวพฤหัสเป็นดาวธาตุดินจึงทำให้เกิดความคิดไตร่ตรองในการเลือกครองคู่ และคนที่มาเป็นคู่ก็ต้องเป็นคนที่มีการศึกษา,มีเหตุ,มีความนอบน้อมอ่อนโยน เมื่อมีคู่ก็จะมั่นคงยืนนานอีกด้วยเช่นกัน ส่วนความหมายเจ้าเรือนมรณะของดาวพฤหัสก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียในด้านการมีคู่ครอง แต่จะทำให้มีความสัมพันธ์ด้านการทำงานร่วมกับชาวต่างชาติหรือเป็นการที่เจ้าชะตาได้รับการศึกษายังต่างประเทศ และดาวพฤหัสนี้จะทำให้เจ้าชะตาเป็นครู-อาจารย์ที่ดีได้ด้วยเช่นกัน
เมื่ออ่านความหมายของดาวศุกร์ในการเป็นเจ้าเรือนอริที่กุมดาวพฤหัสในราศีพิจิกเรือนปัตนิ จะหมายถึงเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็มีความรอบคอบและใช้สติปัญญาค่อยๆแก้ไข และเมื่อแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นไปแล้วเก็บเป็นความรู้ที่เพิ่มพูนให้แก่ตนเองต่อไป ดังนั้นคนลักษณะนี้จะไม่กลัวปัญหาเพราะยิ่งมีปัญหาก็จะยิ่งมีความรู้มากขึ้น แต่ดาวแบบนี้จะกลัวปัญหาที่ต้องใช้แรงกายเข้าแก้ไขเพราะตนเองจะถนัดแต่การใช้สติปัญญามากกว่า ดวงแบบนี้จึงถูกกำหนดให้เป็นคนที่มีความรู้มีการความสามารถด้านวิชาการหรือด้านการศึกษามากกว่าที่จะไปในด้านการช่าง
พิจารณาจากรูปที่สอง...
              ดาวพฤหัสตนุลัคน์สถิตราศีพิจิกกุมดาวศุกร์จะทำให้มีความอ่อนโยนและนอบน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก ดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนมรณะจึงทำให้ดาวพฤหัสนี้จึงมีความสุขมีความราบรื่นในการที่จะไปศึกษาต่างประเทศหรือหากร่วมงานกับชาวต่างชาติ ดาวในลักษณะนี้จะส่งผลด้านความราบรื่นเพราะการที่ตนุลัคน์ไปสถิตเรือนศุภะราศีธาตุน้ำทำให้มีความสุขสบายในการเข้าใกล้ผู้ใหญ่ มีความราบรื่นในด้านการศึกษา และที่สำคัญคือดาวพฤหัสนี้จะรู้จักเข้าหาผู้ใหญ่โดยเอาความนอบน้อมนำหน้า แม้ดาวอังคารเจ้าเรือนราศีพิจิกจะไปสถิตราศีอะไรก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เมื่อดาวพฤหัสนี้กุมดาวศุกร์กุมก็เพิ่มความสะดวกสบายใจและความนอบน้อมให้มากยิ่งขึ้นไปอีก หากจะอ่านดาวศุกร์ในการเป็นเจ้าเรือนสหัชชะก็จะเป็นการได้รับความร่วมมือหรือได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากคนใกล้ตัว คนที่มีดาวในลักษณะนี้จะทำอะไรก็สบายเพราะเป็นคนอัธยาศัยไมตรีดีมีความนอบน้อมเป็นอาวุธ จึงเป็นดวงที่มีเมตตามหาเสน่ห์ในอีกแบบหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
               หากจะพิจารณาในเหตุผลที่ว่าดาวพฤหัสได้ตำแหน่งมหาจักรจึงทำให้เกิดเป็นเรื่องราวที่ดีก็อาจจะอนุโลมได้ แต่ก็เป็นบางกรณีเท่านั้นเช่นดวงตัวอย่างที่ยกมา เพราะหากลัคนาราศีมีนแล้วดาวพฤหัสนี้กุมดาวราหูก็คงจะมีพฤติกรรมไปอีกแบบซึ่งคงจะไม่เกิดผลดีก็ได้ครับ 

ดาวเสาร์ในราศีธนู(เรือนธาตุไฟ)

 ดาวเสาร์ในราศีธนู(เรือนธาตุไฟ)

                 ดาวเสาร์เป็นดาวที่มีความหมายด้านความอดทนอดกลั้นและใช้แสดงถึงปัญหาหรือความเคร่งเครียด,วิตกกังวล ฯลฯ หากดาวเสาร์มาสถิตอยู่ในราศีธาตุไฟจะส่งผลให้ดาวเสาร์เกิดความรุ่มร้อนเพิ่มขึ้นและรู้สึกถูกกดดันอยู่ตลอดเวลา เมื่อเกิดปัญหาก็ไม่มีการอดกลั้นจะมีการตอบโต้หรือต่อต้านในแบบทันทีทันควัน ถ้าอ่านความหมายดาวเสาร์ในเรื่องของความทุกข์ความเครียดก็จะเป็นความทุกข์ความเครียดที่มีปริมาณสูงพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ในทุกเวลา แต่ดาวเสาร์ในราศีธาตุไฟก็ยังมีด้านดีก็คือมีความมุมานะพยายามอย่างจริงจัง(ซึ่งบางทีก็อาจจะมากเกินไปจนกลายเป็นความเคร่งเครียดได้ด้วยเช่นกัน)
               ในบทความนี้จะอธิบายดาวเสาร์ที่สถิตในราศีธนูเรือนธาตุไฟ ซึ่งเราก็ต้องเพิ่มความหมายของดาวพฤหัสเข้าไปผสมกับดาวเสาร์ด้วย ถ้าอ่านดาวเสาร์ในราศีธนูเป็นความเคร่งเครียดหรือได้รับแรงกดดันก็จะต้องเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่หรือระบบ-ระเบียบ,ศาสนา,ประเพณี ฯลฯ ถ้าอ่านดาวเสาร์ในด้านการมุมานะพยายามอย่างจริงจัง(ซึ่งอาจจริงจังจนเคร่งเครียดก็เป็นได้เช่นกัน) ก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของการศึกษา,การปฎิบัติตนอย่างจริงจังในด้านศาสนาหรือความยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในลัทธิใดก็ได้
               ถ้าหากดาวเสาร์นี้ไม่ได้เป็นดาวตนุลัคน์ก็จะส่งผลให้เกิดความหมายไปตามความหมายเรือน ถ้าดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนที่มีความหมายถึงบุคคลเช่นสหัชชะ,พันธุ,ปุตตะ,ศุภะ บุคคลนั้นๆก็จะมีนิสัยและพฤติกรรมตามที่กล่าวข้างต้น และจะขอยกตัวอย่างมาอธิบายเพียงความเป็นเจ้าเรือนปุตตะ
เรือนปุตตะนี้จะหมายถึงวิถีชีวิตในวัยเด็กหรือวัยเรียนของเจ้าชะตาหรือการเริ่มต้นใหม่ๆ ซึ่งอิทธิพลของตนุลัคน์จะเป็นตัวเลือกความหมายของดาวเสาร์นี้มาใช้ให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ไม่ใช่ว่าเห็นดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนปุตตะสถิตในราศีธาตุไฟก็จะต้องเกิดปัญหาหรือมีความกดดันในวัยเด็กหรือในวัยเรียนเสมอไป

   จากรูปตัวอย่าง     
           ลัคนาราศีกันย์ มีดาวพุธสถิตราศีพิจิกกุมดาวพฤหัสและดาวจันทร์ โดยปกติถ้าหากดาวพุธตนุลัคน์สถิตเพียงดาวเดียวโดดๆในราศีพิจิกก็จะมีพฤติกรรมที่อ่อนน้อม,คล้อยตามและไม่ต่อต้านผู้ใด แต่เมื่อดาวพุธกุมกับดาวพฤหัสและดาวจันทร์ก็ยังมีความนอบน้อมเช่นเดิม แต่การคล้อยตามจะลดน้อยลงไปและมีความพินิจพิจารณาไตร่ตรองมากขึ้น ซึ่งรายละเอียดของผลกระทบที่ดาวพุธจะได้รับจากดาวทั้งสองมีดังนี้คือ
             ผลดีประการแรกมาจากธาตุ ทั้งดาวพฤหัสและดาวจันทร์ล้วนเป็นดาวธาตุดินด้วยกันทั้งคู่ เมื่อดาวพุธได้รับธาตุดินจึงทำให้เกิดความหนักแน่นมั่นคงมากขึ้น มีการสะสมความคิดและไตร่ตรองทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาทั้งจากการรับฟังและการสื่อสารออกไปก็จะมีการเรียบเรียงให้เกิดผลดีกว่าเดิม
ผลดีประการที่สองมาจากความหมายดาว ดาวพฤหัสจะทำให้ดาวพุธมีระบบระเบียบและมีความคิดเห็น,มีมุมมองเป็นของตนเอง,มีความเชื่อมั่นใจตนเอง ส่วนดาวจันทร์ก็เพิ่มในเรื่องการได้รับการดูแลเอาใจใส่ รวมถึงการมีจิตใจที่หนักแน่นมั่นคงไม่คล้อยตามผู้อื่นได้ง่ายนัก
         ดังนั้นดาวพุธตนุลัคน์ที่ได้รับผลดีจากดาวร่วมกุมก็สามารถลดทอนความร้ายของดาวเสาร์ลงไปได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมของดาวพุธที่เปลี่ยนไปจากเดิมและเป็นการเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เพราะถ้าเป็นดาวพุธที่สถิตราศีพิจิกเรือนธาตุน้ำโดยลำพังจะทำให้ดาวเสาร์เกิดเป็นแรงกดดันในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นแรงกดดันจากคนในครอบครัว,จากบิดา-มารดา,จากการศึกษา,จากวัฒนธรรม-ประเพณี,จากกฎระเบียบ เนื่องจากดาวพุธในราศีธาตุน้ำจะไม่มีกำลังที่จะไปต่อต้านผู้ใดได้เลย ต้องคอยคล้อยตามและปฏิบัติตามผู้อื่นอยู่เสมอ เมื่อดาวพุธนี้ได้รับผลจากการกุมของดาวพฤหัสและดาวจันทร์ทำให้เกิดผลดีด้านความเข้มแข็งมั่นคงในจิตใจและมีความคิดเป็นของตนเองมากขึ้น ดาวพุธนี้ยังมีการสะสมความรู้เพราะได้รับการสั่งสอนอย่างเป็นระบบจากผู้ใหญ่หรือจากครอบครัว(ดาวพฤหัสเจ้าเรือนพันธุกุมดาวพุธ) ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจนทำให้เป็นคนที่มีเชื่อมั่นในตนเอง(ดาวจันทร์เจ้าเรือนลาภะกุมดาวพุธ) เมื่อเราอ่านตนุลัคน์ได้ในลักษณะนี้ก็จะทำให้รู้ได้ว่าดาวพุธนี้อ่อนโยนแต่ไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด และที่สำคัญคือกลุ่มดาวในราศีพิจิกยังทำมุมเบียนส่งธาตุน้ำไปสู่ดาวเสาร์ทำให้เกิดความชุ่มเย็นอีกด้วย 
     ดังนั้นดาวเสาร์ที่สถิตในราศีธนูเรือนธาตุไฟจึงไม่ได้เป็นแรงกดดันอีกต่อไป จะต้องอ่านว่าเป็นความมุมานะพยายามอย่างจริงจังในด้านการศึกษา แม้ยังต้องอยู่ในกรอบของครอบครัวอย่างเข้มงวดแต่เจ้าชะตาก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนแต่อย่างใด เพราะตนุลัคน์ที่คุมพฤติกรรมโดยรวมทั้งหมดก็ได้บอกเอาไว้อยู่แล้วว่าเจ้าชะตาเป็นคนมีระบบ-ระเบียบ มีความเข้มแข็งอดทนรู้จักไตร่ตรองทุกสิ่งทุกอย่างที่กระทำ และรู้จักพิจารณาแยกแยะคัดเลือกสิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิตของตนเท่านั้น

อ.ทนัญ โหราศาสตร์ไทย ระบบธาตุ