ดาวเล็งกัน.. ดี-ร้าย อย่างไร
โดยหลักในทางระบบธาตุนั้นมีการสอนเอาไว้อยู่แล้วว่าไม่มีดาวคู่ใดที่ส่งผลดีหรือส่งผลเสียที่เป็นกฎตายตัว เพราะว่าแต่ละราศีจะทำให้ดาวมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะดาวที่เล็งกันนั้นบางทีเป็นดาวที่มีธาตุของตนเองที่ไม่ได้ขัดแย้งกันแต่อย่างใด แต่ด้วยผลของธาตุราศีจึงทำให้ดาวสองดวงที่เห็นว่าไม่ขัดแย้งหรือมักส่งเสริมซึ่งกันและกัน กลับเกิดเป็นผลร้ายขึ้นมาก็ได้ หรือดาวที่เคยขัดแย้งกัน-ไม่เอื้อเฟื้อต่อกันก็กลับมาเป็นการส่งผลในทางดีต่อกันได้อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นดาวคู่มิตร-ดาวคู่ศัตรู-ดาวคู่ธาตุ-ดาวคู่สมพล ก็อยู่ในหลักการพิจารณาเดียวกันนี้ทั้งสิ้น อย่าให้ความหมายของกฎเกณฑ์นั้นมาปิดกั้นความเป็นจริงของดาวและธาตุ
จะขอยกตัวอย่างสักกรณีมาให้พิจารณาในด้านมุมร้ายและมุมดีระหว่างดาวเล็งกันดังนี้
ดาวในราศีธาตุลม และ ดาวในราศีธาตุไฟ ที่ต่างก็เล็งไปสู่กันและกัน :
- มุมร้ายจากดาวในราศีธาตุลมก็ทำให้ดาวในราศีธาตุไฟเกิดการรวนเร,ไม่จริงจัง,เปลี่ยนแปลงเร็ว,เลื่อนลอย และมุมร้ายจากดาวในราศีธาตุไฟจะทำให้ดาวในราศีธาตุลมเกิดความกดดัน,ถูกเร่งเร้า,ได้รับการบังคับ,เกิดความก้าวร้าวเป็นผลแห่งความขัดแย้ง
- มุมดีจากดาวในราศีธาตุลมทำให้ดาวในราศีธาตุไฟมีมุมมองที่กว้างมากขึ้นไม่ยึดติดกับเป้าหมายเพียงสิ่งเดียว,มีการผ่อนหนักผ่อนเบาไม่หักโหมจนเสียสุขภาพ,กระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน,มีการผ่อนคลายความเคร่งเครียดและความเร่าร้อนให้น้อยลงไป และมุมดีจากดาวในราศีธาตุไฟทำให้ดาวในราศีธาตุลมมีการตั้งใจ-จดจ่อ-จริงจังอยู่กับการงานของตน,มีความรับผิดชอบมากขึ้น,มีแรงกระตุ้นเพื่อให้ไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จ,มีการตัดสินใจที่รวดเร็วเด็ดขาด
ในรูปดวงตัวอย่าง มีดาวอาทิตย์ในราศีสิงห์ ดาวอังคารในราศีกุมภ์ : ดาวอาทิตย์จะทำให้ดาวอังคารเกิดผลในมุมร้ายก็ทำให้ยึดติดชื่อเสียงหน้าตาและมีความก้าวร้าว ไม่มีการประนีประนอมใดๆ ในมุมด้านดีก็ทำให้มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ มีเป้าหมายที่ชัดเจนจริงจัง มีความรักศักดิ์ศรีและต้องการเป็นผู้นำ
ส่วนดาวอังคารจะทำให้ดาวอาทิตย์เกิดผลทางมุมร้ายคือ ทำให้โลเลขาดความมั่นใจ เป้าหมายไม่ชัดเจนทำให้การงานเกิดความสับสน ไม่จริงจังไม่มุ่งมั่นในการไปสู่ความสำเร็จ ในส่วนมุมด้านดีก็ทำให้การกระทำเพื่อไปสู่เป้าหมายสามารถได้หลากหลายวิธีการ รู้จักกระจายความเสี่ยงและไม่ยึดติดกับชื่อเสียงหน้าตาจนมากเกินไป (ในส่วนความหมายเรือนก็นำมาเติมเป็นส่วนขยายเรื่องราวให้สมบูรณ์) และการจะเลือกว่าควรนำความหมายใดมาใช้ก็ต้องขึ้นกับตนุลัคน์ หรือเป็นไปตามสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละบุคคล
ในมุมของราศีอื่นก็ให้พิจารณาไปตามความหมายของธาตุเช่นธาตุน้ำเป็นผลแห่งความโลเล,เลื่อนลอย,ชุ่มชื่น,เยือกเย็น ธาตุดินเป็นผลแห่งความเชื่องช้า,คิดนาน,ตัดสินใจช้า,มั่นคง,หนักแน่น,สม่ำเสมอ ขอให้ไปแยกแยะผลดีและผลเสียด้วยความหมายดาวและเรือนไปตามสถานการณ์ที่ถูกต้องนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น